วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ครั้งที่ 5/2566 โดยมี ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เป็นกรรมการและเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาและมีมติในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

1. ให้การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 7 แห่ง รวมจำนวน 8 หลักสูตร ที่มีการจัดการเรียนการสอนในที่ตั้งของสถาบันเท่านั้น ดังนี้
1) ปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 1 แห่ง 2 หลักสูตร ได้แก่ มหาวิทยาลัยกาฬสินธ์
2) ปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพครู) จำนวน 3 แห่ง 3 หลักสูตร ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
3) ปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพบริหารการศึกษา) จำนวน 2 แห่ง 2 หลักสูตร ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
4) ปริญญาเอกทางการศึกษา (วิชาชีพบริหารการศึกษา) จำนวน 1 แห่ง 1 หลักสูตร ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด

2. ให้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดการรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่คุรุสภาให้การรับรองแล้ว โดยเปลี่ยนแปลงแผนการรับนักศึกษา ดังนี้
1) ปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 4 แห่ง 9 หลักสูตร ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ พื้นที่บพิตรพิมุข จักรวรรดิมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2) ปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร 5 ปี) จำนวน 1 แห่ง 1 หลักสูตร ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2. เห็นชอบการรับรองผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 4/2566 ตามมติคณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ในการประชุมครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566 และการประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ ตาม ร่าง ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง รายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 4/2566 จำนวน 2,130 คน ดังนี้
1) หลักสูตรปริญญาตรีทางการศึกษา                             จำนวน    1,334  คน
2) หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู                จำนวน       531  คน
3) หลักสูตรปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพครู)       จำนวน       265  คน

3. เห็นชอบการแต่งตั้งปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานอนุกรรมการจัดงานวันครู ครั้งที่ 68 พ.ศ. 2567 และมอบประธานอนุกรรมการฯ พิจารณาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการร่วมคณะตามที่เห็นสมควร เพื่อทำหน้าที่กำหนดแนวทางการจัดงานวันครู ครั้งที่ 68 พ.ศ. 2567

4. รับทราบการให้ศูนย์การศึกษาพิเศษเป็นสถานศึกษาสำหรับฝึกปฏิบัติวิชาชีพระหว่างเรียนและการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ตามหลักสูตรที่คุรุสภาให้การรับรอง ของสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 2 สถาบัน รวมจำนวน 11 คน ดังนี้
1) วิทยาลัยนครราชสีมา ได้แก่ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 11 จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 คน
2) มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น ได้แก่ ศูนย์การศึกษาพิเศษ จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดร้อยเอ็ด รวมจำนวน 10 คน

5. รับทราบการขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ครูอาวุโส ประจำปี 2564 จำนวน 7,321 คน เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยาองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ออกรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภา นำครูอาวุโส ประจำปี 2564 เข้ารับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือ จำนวน 30 คน และเข้ารับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติและประกาศนียบัตร จำนวน 7,291 คน รวมจำนวน 7,321 คน ในวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.00 น. ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และคณะกรรมการมูลนิธิช่วยครูอาวุโสฯ กำหนดให้ครูอาวุโส ประจำปี 2564 รายงานตัวและซักซ้อมวิธีการเข้ารับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติฯ ในวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 06.00 – 12.30 น. ณ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา

6. รับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินงานหลักสูตรอบรมตามมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู สำหรับผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว ให้มีมาตรฐานความรู้วิชาชีพ เพื่อเป็นคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (ชาวไทยและชาวต่างชาติ) ตามแนวทางการดำเนินงานพัฒนาผู้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว ให้มีมาตรฐานความรู้วิชาชีพเพื่อเป็นคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (ชาวไทยและชาวต่างชาติ) จำนวน 7 โมดูล (Module) ตามที่คณะกรรมการคุรุสภาเห็นชอบในหลักการในการประชุมครั้งที่ 8/2565 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 และรับทราบความก้าวหน้าในการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

  •      สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โดยสถาบันคุรุพัฒนาจึงได้จัดทำกรอบแนวคิดและมาตรฐาน จำนวน 7 โมดูล (Module) ดังนี้
    โมดูล (Module) 1 การเปลี่ยนแปลงบริบทของโลก สังคม และแนวคิดของ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
    โมดูล (Module) 2 จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาการศึกษา และจิตวิทยา ให้คําปรึกษาในการวิเคราะห์และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ
    โมดูล (Module) 3 เนื้อหาวิชาที่สอน หลักสูตร ศาสตร์การสอน และเทคโนโลยีดิจิทัล ในการจัดการเรียนรู้
    โมดูล (Module) 4 การวัด ประเมินผลการเรียนรู้ และการวิจัยเพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาผู้เรียน
    โมดูล (Module) 5 การใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษา
    โมดูล (Module) 6 การออกแบบและการดำเนินการเกี่ยวกับงานประกันคุณภาพการศึกษา
    โมดูล (Module) 7 จิตวิญญาณความเป็นครู และจรรยาบรรณของวิชาชีพ
  • ทั้งนี้ ได้นำกรอบแนวคิดดังกล่าวไปเป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตร ฝึกอบรมที่มีมาตรฐานมีรูปแบบการเรียนรู้และการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ทันสมัย และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงโดยมีหลักการ ดังนี้
    1) เป็นหลักสูตรอบรมฐานสมรรถนะ (ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะ)
    2) เนื้อหาสาระครอบคลุมมาตรฐานความรู้ตามประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง รายละเอียดความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครู ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562
    3) มีรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย เหมาะสมกับผู้เข้ารับการอบรมที่มีประสบการณ์สอนมาแล้ว อาทิ บรรยาย อภิปราย ระดมสมอง ประชุมเชิงปฏิบัติการฝึกปฏิบัติ เป็นต้น
    4) ระยะเวลาอบรมแต่ละมาตรฐานความรู้ไม่น้อยกว่า 60 ชั่วโมง
    5) มีวิธีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย เหมาะสม และวัดได้ตรงกับสมรรถนะที่กำหนด
    6) กําหนดเกณฑ์การเข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และผ่านการประเมินสมรรถนะ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60
  • สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โดยสถาบันคุรุพัฒนาได้เสนอความก้าวหน้าการดำเนินงานพัฒนาผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว ให้มีมาตรฐานความรู้วิชาชีพ เพื่อเป็นคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (ชาวไทยและชาวต่างชาติ) มีรายละเอียดดังนี้
    1) เปิดรับแจ้งความประสงค์เข้ารับการอบรม และ/หรือเทียบประสบการณ์การทำงาน หลักสูตรอบรมมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู สำหรับ (ชาวไทยและชาวต่างชาติ) จำนวน 7 โมดูล (Module) ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2566
    2) เปิดให้ผู้แจ้งความประสงค์อบรมฯ และ/หรือ เทียบประสบการณ์ทำงาน ชำระค่าลงทะเบียนและเลือกรุ่นการอบรมฯ ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2566
    3) เปิดอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และดำเนินการเทียบประสบการณ์การทำงาน ระหว่างเดือนกันยายน 2566 – มีนาคม 2567
  • จากการเปิดรับแจ้งความประสงค์เข้ารับการอบรม และ/หรือ เทียบประสบการณ์ทำงาน หลักสูตรอบรมมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูสำหรับ (ชาวไทยและชาวต่างชาติ) จำนวน 7 โมดูล (Module) เมื่อวันที่ 1 – 31 มีนาคม 2566 มีจำนวนผู้แจ้งความประสงค์ทั้งหมด จำนวน 5,814 คน จำแนกเป็น ชาวไทย จำนวน 3,340 คน และชาวต่างชาติ จำนวน 2,474 คน

แนวทางการดำเนินงานมีดังนี้

  1. ให้ผู้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เลือกเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูได้อีกช่องทางหนึ่ง เมื่อผ่านการพัฒนาตามหลักสูตรที่กำหนด จะเป็นผู้มีคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
  2. หลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูสำหรับผู้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว ให้มีมาตรฐานความรู้วิชาชีพ เพื่อเป็นคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (ชาวไทยและชาวต่างชาติ) ประกอบด้วย 7 โมดูล (Module) ตามมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ
  3. ผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถเลือกเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูได้ 2 รูปแบบ ทั้งการเข้ารับการอบรม และการเทียบประสบการณ์ทำงานโดยในหนึ่งโมดูล (Module) ต้องเลือกรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่ทั้ง 7 โมดูล (Module) สามารถเลือกได้ทั้งสองรูปแบบ ซึ่งกำหนดเกณฑ์การผ่านการอบรมในหลักสูตรต้องผ่านทุกโมดูล (Module) ดังนี้รูปแบบที่ 1 เข้ารับการอบรมในหลักสูตรอบรมมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูสำหรับผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุมเป็นการชั่วคราว ให้มีมาตรฐานความรู้วิชาชีพเพื่อเป็นคุณสมบัติในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (ชาวไทยและชาวต่างชาติ) เป็นการอบรมผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มีจำนวนชั่วโมงรวม 420 ชั่วโมง จำนวน 7 โมดูล (Module) โดยในแต่ละโมดูลกำหนดภาคทฤษฎี จำนวน 48 ชั่วโมง และสัมมนา 12 ชั่วโมงรูปแบบที่ 2 เข้ารับการเทียบประสบการณ์ทำงาน เป็นการเทียบประสบการณ์ทำงานโดยไม่ต้องเข้ารับการอบรม ซึ่งจะดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ขอเทียบสามารถนำหลักฐานเอกสารและ/หรือดำเนินการอื่น ๆ ตามที่กำหนดในแต่ละโมดูล (Module) ดังนี้
    1. มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าของสถาบันการศึกษาที่มีหลักฐานผ่านการรับรองของหน่วยงานที่เชื่อถือได้ หรือปรากฏข้อมูลชื่อสถาบันระบุในหนังสือ The World of ALMANAC (กรณีจบจากสถาบันการศึกษาต่างประเทศ) ที่มีรายวิชาที่ตรง / สัมพันธ์ / เกี่ยวข้อง ตามหลักสูตรอบรมมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู โดยแสดงเอกสาร / หลักฐานใบรับรองผลการเรียน
    2. มีประสบการณ์การจัดโครงการที่เกี่ยวข้องมาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปี ที่ตรง / สัมพันธ์ / เกี่ยวข้อง ตามหลักสูตรอบรมมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู โดยแสดงเอกสาร/หลักฐาน ร่องรอยการทำโครงงาน ภาพถ่าย และผลลัพธ์การจัดในระยะเวลา 3 ปีต่อเนื่อง และผู้บริหารสถานศึกษารับรอง
  • โดยผู้เข้ารับการอบรมและ/หรือ เทียบประสบการณ์ทำงานในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครูที่มีผล “ผ่าน” ครบทั้ง 7 โมดูล (Module) แล้วจึงดำเนินการยื่นขอรับรองความรู้วิชาชีพทางการศึกษาได้
  • ในการนี้ ผู้ที่เข้ารับการอบรม และ/หรือ เทียบประสบการณ์ทำงานในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู
    ต้องชำระค่าลงทะเบียน ดังนี้

    1. การอบรมในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู ภาษาไทย ชำระค่าลงทะเบียน โมดูล (Module) ละ 2,500 บาท (สองพันห้าร้อยบาทถ้วน)
    2. การอบรมในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู ภาษาอังกฤษ ชำระค่าลงทะเบียน โมดูล (Module) ละ 3,000 บาท (สามพันบาทถ้วน)
    3. การเทียบประสบการณ์ทำงานในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู ภาษาไทย ชำระค่าลงทะเบียน โมดูล (Module) ละ 1,500 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน)
    4. การเทียบประสบการณ์ทำงานในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู ภาษาอังกฤษ ชำระค่าลงทะเบียน โมดูล (Module) ละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน)
  • กรณีไม่ผ่านการอบรม และ/หรือ เทียบประสบการณ์ทำงานในหลักสูตรมาตรฐานความรู้วิชาชีพครู สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะไม่คืนค่าลงทะเบียนในทุกกรณี โดยผู้เข้ารับการอบรม และ/หรือ เทียบประสบการณ์ทำงานจะต้องดำเนินการลงทะเบียนใหม่