จากข่าวที่ปรากฏในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กรณี ผู้ปกครองพาลูกหลาน จำนวน 27 ราย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชัยบาดาล ให้ดำเนินคดีกับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ในความผิดทำอนาจารเด็กนักเรียน ล่าสุดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลพบุรี เขต 2 มีคำสั่งให้ย้าย ผอ.โรงเรียนรายดังกล่าวมาช่วยราชการที่ สพป.ลพบุรี เขต 2 และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นั้น

ผศ.ดร.อมลวรรณ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ในการดำเนินการของคุรุสภา ได้ติดตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้กระทำผิดแล้ว พบว่า บุคคลที่ตกเป็นข่าวเป็นผู้บริหารสถานศึกษาจริง และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ออกให้วันที่ 13 ธ.ค. 2563 หมดอายุวันที่ 12 ธ.ค. 2568 ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้สำนักจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการ ดำเนินการเอาผิดทางด้านจรรยาบรรณของวิชาชีพ โดยจะเสนอคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวน และหากหน่วยงานต้นสังกัด มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและให้ออกจากราชการไว้ก่อนและพักราชการ  คุรุสภาก็จะเสนอพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพไว้ก่อนตลอดระยะเวลาการสอบสวนด้วย และหากผลตัดสินว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดด้วยการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของผู้กระทำผิดทันที เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างชัดเจน  ไม่สมควรที่จะประกอบวิชาชีพทางการศึกษาอีกต่อไป ทั้งนี้ คุรุสภาจะพิจารณาความผิดตามข้อเท็จจริง  และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า ตามนโยบาย เรียนดี มีความสุข ของ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ให้ความสำคัญกับสถานศึกษาทุกแห่ง จะต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กนักเรียน หากมีครูหรือผู้บริหารสถานศึกษา กระทำผิดจรรยาบรรณ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการทำอนาจารเด็กนักเรียน จะต้องถูกดำเนินการเอาผิดขั้นเด็ดขาดโดยเร็วที่สุด และขอให้ผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่งเคร่งครัดกับการป้องกันการประพฤติผิดในสถานศึกษา ส่งเสริมให้กำลังใจแก่ศิษย์ สอดส่องดูแล เอาใจใส่เด็กนักเรียนในสังกัดให้มากขึ้น เพื่อให้นักเรียน
ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข.